การกลับมาตามไล่ล่าล้างหนี้แค้นอีกครั้งของนักแสดงหนุ่มยอดนักบู๊แถวหน้าของวงการฮอลลีวู้ดอย่าง Jason Statham (เจสัน สเตแธม) ในผลงานภาพยนตร์แอ็คชั่น-ทริลเลอร์เรื่องล่าสุด Hummingbird (ฮัมมิ่งเบิร์ด) หรือที่มีชื่อภาษาไทยว่า “คนโคตรระห่ำ” ประชันบทบาทแอ็คชั่นที่มีเรื่องราวสุดเข้มข้นกับนักแสดงสาว Agata Buzek (อากาต้า บูเซ็ค) เขียนบทและกำกับการแสดงโดย Steven Knight (สตีเว่น ไนท์)
ลองมาฟังนักแสดงหนุ่ม Jason Statham (เจสัน สเตแธม) เปิดใจถึงผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเขากันดู…
…ผมรับบทเป็น Joey Jones (โจอี้ โจนส์) อดีตนายทหารหน่วยรบพิเศษที่หนีความผิดจากศาลทหาร เขาใช้ชีวิตร่อนเร่พเนจรจนวันหนึ่งเพื่อนสาวคนสนิทถูกแก็งค์มาเฟียจับไป Joey (โจอี้) ต้องดิ้นรนหนีพร้อมกับตามหาเธออย่างไม่ลดละ เขาแอบบุกรุกเข้าไปในอพาร์ทเมนต์หรูแห่งหนึ่งซึ่งเจ้าของไม่อยู่ชั่วคราว เขาเจอบัตรเครดิต กุญแจรถและเงินในบัญชีธนาคารที่จะให้เขาได้ถลุงอย่างเต็มที่ แต่เขากลับตัดสินใจใช้โอกาสนี้กลับตัวและหางานทำ เขาเลิกเหล้ายาและได้มาเจอกับ Cristina (คริสติน่า รับบทโดยอากาต้า บูเซ็ค) แม่ชีที่ทำงานเพื่ออุทิศตัวช่วยเหลือคนเร่ร่อน การพบกันครั้งนี้ทำให้ทั้งคู่ได้เจอเรื่องราวมากมายหลากหลายรูปแบบ ทั้งการไล่ล่า การล้างแค้น ความรัก และการสูญเสียบางสิ่งจากความผิดพลาดในอดีตที่ไม่มีวันหวนคืน สิ่งเหล่านี้ทำให้คนทั้งคู่เข้าใจและเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน Joey (โจอี้) เปรียบเสมือนซาตานในคราบนักบุญ เขาทำงานทุจริตเพื่อนำไปช่วยเหลือคนเร่ร่อน และ Cristina (คริสติน่า) เป็นคนที่คอยกระตุ้นเตือนให้ Joey (โจอี้) สำนึกในบาปบุญคุณโทษที่เขากระทำลงไป
ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่งที่ท้าทายความสามารถ มันมีส่วนผสมของบู๊แอ็คชั่นและเรื่องราวอันเข้มข้น หลังจากที่ผมได้อ่านบทภาพยนตร์เรื่องนี้ คำตอบแรกในหัวผมคือ ผมต้องเล่นมันให้ได้ เพราะผมกระหายที่อยากจะแสดงภาพยนตร์แนวนี้มานานแล้ว ผมทุ่มเทให้กับการค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับคนเร่ร่อนในลอนดอน คุณเชื่อไหมว่าคนเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีอดีตที่น่าฝังใจ เพราะคนเร่ร่อนส่วนใหญ่ในลอนดอนจะเป็นอดีตทหารที่ปลดประจำการหลังจากออกรบในสงคราม การได้พูดคุยกับคนเหล่านี้ช่วยให้ผมเข้าใจในตัวละคร Joey (โจอี้) มากยิ่งขึ้น นอกจากฉากแอ็คชั่นที่บู๊ระห่ำแล้ว ยังมีฉากที่ผมได้แสดงอารมณ์หลายฉาก แต่จะเป็นเพราะอะไร นั้นลองไปติดตามดูกันในภาพยนตร์เรื่องนี้ ตัวละคร Joey (โจอี้) มีความคลุมเครือระหว่างหยินและหยาง เลวกับดีผสมอยู่ในตัว เขาเป็นเหมือนกระจกสะท้อนภาพให้พวกเราทุกคนได้เห็น ว่าในความเป็นมนุษย์ของคนทุกคนล้วนแล้วแต่มีความดีและความเลวแฝงอยู่ในตัว เพียงแต่ว่าเราเลือกที่จะแสดงด้านไหนออกมาให้คนอื่นได้เห็นเท่านั้นเอง การได้ร่วมงานกับ Agata Buzek (อากาต้า บูเซ็ค) ถึงแม้ว่าจะเป็นการร่วมงานครั้งแรกที่มาจากคนละฝั่งโลกของวงการภาพยนตร์ แต่ผมรู้สึกว่าพวกเราทั้งสองคนกลับมีหลายสิ่งที่คล้ายกันและสามารถเล่นเข้าขากันได้อย่างดี เธอเป็นนักแสดงที่มีความสามารถและน่าจับตามมองไม่น้อยเลยทีเดียว อยากให้ผู้ชมลองพิสูจน์ผลงานการแสดงของเธอด้วยตาคุณเอง รับรองว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน”
การที่ต้องมารับหน้าที่นักแสดงนำประกบนักแสดงรุ่นพี่ชื่อดังอย่าง Jason Statham (เจสัน สเตแธม) งานนี้ทำเอานักแสดงสาวชาวโปแลนด์ Agata Buzek (อากาต้า บูเซ็ค)
ออกปากสารภาพว่าต้องเก็บอาการประหม่าเอาไว้ตลอดเวลาที่ร่วมงานกับซูเปอร์สตา
ร์รุ่นพี่
แถมยังออกตัวว่าทุ่มเทจิตวิญญาณทางการแสดงแบบสุดตัวเพื่อให้ภาพยนตร์เรื่อง
ล่าสุดของเธอเรื่องนี้ออกมาเฟอร์เฟ็คที่สุด
ในเรื่องฉันรับบทเป็น Cristina (คริสติน่า)
เธอมีอดีตฝังใจที่เลวร้ายไม่ต่างจาก Joey (โจอี้)
เธอเลยเดินทางมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการบวชเป็นแม่ชี
ช่วยเหลือคนเร่ร่อนในลอนดอน ดูภายนอก Cristina
(คริสติน่า)ดูเป็นคนเข้มแข็งและมั่นใจในตัวเองมาก
แต่ภายในจิตใจของเธอนั้นเต็มไปด้วยภาพฝังใจในอดีตที่สร้างความทุกข์ทรมานใจ
ให้เธอไม่น้อย ไม่มี่ใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ
แต่วันหนึ่งเมื่อเธอได้มาเจอกับ Joey (โจอี้)
ทำให้เธอกล้าที่จะเอ่ยปากปรับทุกข์กับเขา
และทำให้ทั้งคู่เข้าใจซึ่งกันและกัน
จนเป็นที่มาของความรู้สึกบางอย่างระหว่างคนสองคนฉันรู้สึกตื่นเต้นมากค่ะ
ที่ฉันได้รับการติดต่อจากทีมงานว่าอยากให้ฉันไปแคสภาพยนตร์เรื่องนี้ที่
ลอนดอน ฉันได้มีโอกาสเจอกับผู้กำกับ Steven Knight (สตีเว่น ไนท์)
เขาให้ฉันลองแสดงให้ดูสองถึงสามฉาก และฉันก็ได้รับคำตอบว่าฉันได้เล่นบท
Cristina (คริสติน่า)
ฉันยังจำความรู้สึกวันแรกที่เข้าฉากร่วมกับนักแสดงรุ่นพี่อย่าง Jason Statham (เจสัน สเตแธม)
ได้เลยว่า มันเป็นอะไรที่ตื่นเต้นมาก(ลากเสียงยาว) โอ้พระเจ้า!
ฉันประหม่าจนทำอะไรไม่ถูก เลยต้องไปนั่งตั้งสตินิ่งๆอยู่พักหนึ่ง
โชคดีที่Jason(เจสัน) เป็นคนน่ารัก อบอุ่น อัธยาศัยดีและเป็นกันเอง
เขาช่วยให้ฉันลดความประหม่าลงไปได้เยอะ เวลามีอะไรติดขัดระหว่างเข้าฉาก
เขาก็จะยิ้มและบอกว่าไม่เป็นไรคุณทำได้อยู่แล้ว
ฉันเลยต้องพยายามทำการบ้านและเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ
เพราะไม่อยากทำให้ทุกคนต้องเสียเวลา
ฉันกล้าพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่าฉันทุ่มเทจิตวิญญาณการแสดงทั้งหมดที่ฉันเคย
ร่ำเรียนมาเพื่อภาพยนตร์เรื่องนี้
เพราะมันเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจและฉันเชื่อว่าคนดูจะได้ข้อคิดดีๆ
จากภาพยนตร์เรื่องนี้เช่นกันค่ะ อยากฝากให้ทุกคนลองติดตามชมดูกันนะคะ…”
Credit : welovemovieclub.com
เจสัน สเตแธม ล่าล้างแค้นสุดระห่ำใน “Hummingbird” !
No related post available
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น: